Tinder มักจะโดนถามถึงเรื่องอัลกอริทึมของ Tinder ทำงานอย่างไรอยู่เป็นประจำ หรือคำถามว่า โปรไฟล์ของคนที่ถูกแนะนำมีการเรียงลำดับอย่างไร แล้วทำไมโปรไฟล์นั้นถึงถูกแนะนำขึ้นมา หรือมีวิธีเล่นเกมในระบบของแอพเพื่อให้สามารถจับคู่ Match ได้มากขึ้นบ้างหรือไม่ โดย Tinder ยินดีที่จะแบ่งปันเบื้องหลังอัลกอริทึมว่ามีหลักการทำงานอย่างไร
สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือ
ให้ Tinder เป็นผู้สร้างความตื่นเต้น และสร้างความประทับใจให้กับคุณก็พอ ปัจจัยสำคัญที่สุดในการช่วยให้สมาชิก Tinder สามารถเพิ่มโอกาสในการจับคู่ Match ก็คือ การใช้แอพ Tinder
ทั้งนี้ Tinder ได้จัดลำดับการให้ความสำคัญกับคู่ Match ที่มีการใช้งานอยู่ และจะต้องใช้งานอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน เพราะ Tinder ไม่อยากแสดงหน้าโปรไฟล์ของสมาชิกที่ไม่ได้ใช้งานเพื่อที่สมาชิกจะได้ไม่ต้องเสียเวลา อีกทั้งอยากให้สมาชิกได้มีเวลาในการสร้างความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความหมาย มีบทสนทนาระหว่างกัน และได้ออกไปพบกันในชีวิตจริง คงจะดีไม่น้อยถ้าหากว่าเมื่อจับคู่ Match ได้แล้ว สมาชิกสามารถเริ่มต้นคุยกันได้ทันที ส่วนสำคัญที่สุดของหลักการทำงานคือ การใช้แอพอยู่เป็นประจำซึ่งจะช่วยให้โปรไฟล์ของสมาชิกมีความโดดเด่นและถูกมองเห็นได้มากขึ้น รวมถึงการดูโปรไฟล์มากขึ้นซึ่งจะยิ่งช่วยให้มีโอกาสจับคู่ Match ได้มากขึ้น ด้วยวิธีการนี้ทำให้สมาชิกสามารถควบคุมการจัดการได้ด้วยตัวเอง
ดังนั้นการที่สมาชิกใช้แอพอยู่เป็นประจำ จะเป็นการช่วยให้ Tinder สามารถเลือกคู่ Match ได้ดียิ่งขึ้น และทั้งหมดนี้คือพื้นฐานการทำงานของอัลกอริทึม
แล้วมีอะไรอย่างอื่นอีกบ้าง?
Tinder ไม่ได้ขอข้อมูลอะไรมากมายจากสมาชิก นอกจากการโลเคชั่นในปัจจุบัน เพศ อายุ ระยะห่างระหว่างกัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเริ่มต้นจับคู่ Match การอยู่ใกล้กันนับว่าเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะการได้พบกับใครสักคนที่อาศัยอยู่ในละแวกเดียวกันเป็นเรื่องที่น่าสนุกอยู่เสมอ และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไม Tinder ถึงตรวจสอบระยะห่างระหว่างกันของคู่ Match กับโลเคชั่นปัจจุบันของสมาชิก
แต่ถึงอย่างนั้น Tinder ยังอยากแน่ใจว่าสมาชิกจะได้เห็นโปรไฟล์ของคนที่พวกเขามีความรู้สึกดีๆ ด้วย
จึงได้มีการนำข้อมูลอื่นๆ มาประกอบการตรวจสอบร่วมด้วย อาทิ
สิ่งที่สมาชิกบอกกับเรา - Tinder คือการผจญภัยซึ่งมีตอนจบแบบปลายเปิด หรือตอนจบที่ให้ตีความเอาเองอยู่เสมอ สำหรับคนที่อยากแบ่งปันข้อมูลให้มากขึ้น Tinder ก็มีการเอาเรื่องของความสนใจและรายละเอียดเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ของสมาชิกจากฟีเจอร์ Interests เพิ่มเข้าไปในหน้าโปรไฟล์ มาร่วมพิจารณาด้วย เช่น รักการเดินป่า ชอบคนที่รักสุนัข ซึ่งข้อมูลพวกนี้จะช่วยให้สมาชิกสามารถโฟกัสกับโปรไฟล์ของคนที่มีความสนใจเหมือนๆ กันได้
ภาพถ่ายที่คล้ายกัน - นอกเหนือจากการใส่ข้อมูลต่างๆ แล้ว Tinder ยังใช้ภาพถ่ายที่ไม่เปิดเผยตัวตนเข้ามาช่วยคัดเลือกโปรไฟล์ที่อยากจะแนะนำ โดย Tinder จะแนะนำโปรไฟล์ของคนที่มีภาพถ่ายคล้ายกับโปรไฟล์ที่สมาชิกเคย Like มาก่อน และแสดงโปรไฟล์ของพวกเขากับสมาชิกที่ชอบด้วยรูปภาพที่คล้ายกัน เช่น หากสมาชิก Like คนที่ชื่นชอบการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ชอบไปงานเทศกาล หรือคนที่เพลิดเพลินกับกิจกรรมบนชายหาด เราก็จะเอาข้อมูลเหล่านี้มาพิจารณา
Like หรือ Nope - Like หรือ Nope เป็นส่วนที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการทำความเข้าใจในสิ่งที่สมาชิกชอบ Tinder มีการคัดเลือกคู่ Match ที่เหมาะสมให้สมาชิกได้เห็นหน้าโปรไฟล์ ด้วยการพิจารณาจากโปรไฟล์ของพวกเขาและโปรไฟล์ทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันว่ามีการ Like หรือ Nope บ่อยครั้งมากน้อยแค่ไหน และยังมีอีกหลายเรื่องราวที่ Tinder จะไม่นำมาเป็นข้อมูลในการพิจารณา
อัลกอริทึมของ Tinder จะไม่ติดตามสถานะทางสังคม ศาสนา หรือเชื้อชาติ เพราะ Tinder ไม่เชื่อในเรื่องของการมองแบบเหมารวม ดังนั้นไม่ว่าสมาชิกจะเฉลิมฉลองเทศกาลทิวาลี (การจุดดวงประทีปแห่งแสงสว่างของศาสนาฮินดู) เฉลิมฉลองเทศกาลคาร์นิวัล เฉลิมฉลองเทศกาลอีดิลฟิฎริ (การสิ้นสุดเทศกาลถือศีลอด) หรือ เฉลิมฉลองเทศกาล Pride นั้น Tinder เชื่อว่างานต่างๆ จะสนุกยิ่งขึ้นเมื่อผู้คนจากทุกสาขาอาชีพสามารถมารวมตัวกัน อัลกอริทึมของ Tinder ถูกออกแบบให้เปิดกว้าง และเราพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้
Tinder เปิดโอกาสให้สมาชิกได้พบกับผู้คนที่ไม่ใช่คนจากในแวดวงเพื่อนฝูงหรือครอบครัวญาติพี่น้อง ซึ่งนับตั้งแต่เปิดตัวการใช้งานมาก็พบว่ามีการแต่งงานข้ามเชื้อชาติเพิ่มมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ จึงมีอิโมจิ เพื่อเฉลิมฉลองในเรื่องนี้ด้วย
ลองจินตนาการถึงความเป็นไปได้ต่างๆ ดูสิ
คนที่คุณกำลังมองหาคือฉันใช่มั้ย? (จากการใช้คะแนน Elo)
หลายปีก่อนแนวคิดเรื่อง “คะแนน Elo” เป็นหัวข้อสุดฮอตในหมู่สมาชิกและสื่อต่างๆ และไม่แน่ว่าตอนนี้ก็อาจจะยังเป็นประเด็นอยู่ แต่ทาง Tinder ได้มีข่าวใหม่มาบอก การให้คะแนนแบบ Elo เป็นข่าวเก่าไปแล้ว มันเป็นมาตรวัดที่ล้าสมัย และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของ Tinder ไม่จำเป็นต้องพึ่งคะแนน Elo อีกต่อไป
ปัจจุบันนี้ Tinder มีระบบที่เป็นไดนามิกที่อาศัยการเคลื่อนไหว และความเปลี่ยนแปลงมาเป็นปัจจัยในการพิจารณาว่าสมาชิกเข้าไปมีส่วนร่วมกับคนอื่นๆ บนแอพด้วยการ Like หรือ Nope รวมถึงสิ่งที่อยู่บนหน้าโปรไฟล์ของสมาชิกอย่างต่อเนื่อง
นี่คือเบื้องหลังทั้งหมด
หากสิ่งที่ทุกคนสงสัยคลี่คลายลงแล้ว Tinder ขอแนะนำให้สมาชิกอัพเดทกิจกรรมล่าสุดบนหน้าโปรไฟล์ ใครคือคนที่สมาชิกมีการ Like หรือ Nope รวมถึงองค์ประกอบต่างๆ อย่างความสนใจในฟีเจอร์ Interests และโลเคชั่น โดยปัจจุบันแอพของ Tinder ใช้ได้ใน 190 ประเทศทั่วโลกและมีถึง 45 ภาษา ดังนั้นรีบไปที่แอพ Tinder แล้วลอง Like เพื่อเริ่มต้นจับคู่ Match หรือเข้าไปเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Tinder
ได้ ที่นี่